Tuesday, April 3, 2007

The Fast and The Furious: Tokyo Drift


The Fast and The Furious ภาค Tokyo Drift เป็นหนังที่ผมไม่ค่อยอยากจะดูซักเท่าไหร่ เนื่องจากผมไม่ค่อยประทับใจกับภาคที่แล้ว(ภาค 2) เลยทำให้มองผ่านหนังเรื่องนี้มาเป็นเวลานาน ล่าสุดมีโอกาสสั่งซื้อหนังจากทางเหนือในราคาไม่แพงเลยติดหนังเรื่องนี้มาดู ผลปรากฎว่าดูแล้วได้อะไรเยอะกว่าที่คิดมากครับ

ประเด็นแรกที่พลาดไม่ได้ก็คงเป็นหนังที่เปิดโลกของการ Drift ให้เราได้เห็นกัน ยอมรับเลยครับว่ามันส์ แบบไม่ต้องคิดอะไร ตัวหนังทำได้ดีแม้ออกจะโอเวอร์ไปหน่อยแต่ก็อยู่ในขอบเขตที่ยอมรับได้ และถือว่าทำได้เนียนมากๆครับ

แต่ประเด็นที่ทำให้ผมเขียนถึง The Fast and The Furious: Tokyo Drift ไม่ใช่ประเด็นของความมันสที่ได้จากการแข่งรถ แต่เป็นประเด็นที่ได้จากแนวคิดของหนัง ในช่วงที่ ฮาน และ พระเอกของเรา ยืนมองคนนับพันที่เดินข้ามถนนที่สี่แยกในชิบูย่าของญี่ปุ่นจากยอดของตึกสูง แล้วฮานก็พูดว่าคนส่วนใหญ่เลือกที่จะเดินตามกระแสของสังคม ไม่กล้าที่หลุดออกมานอกจากกระแส ประโยคนี้ผมฟังแล้วทำให้คิดอะไรได้อีกเยอะเลยครับ ใครยังไม่ดูขอแนะนำให้ดูแล้วตั้งใจดูฉากนี้ ผมว่าเป็นฉากหนึ่งที่ผมชอบมากๆ เลย

เอาเป็นว่าผิดคาดสำหรับเรื่องนี้ครับ ผมได้อะไรๆดีมาเยอะเหมือนกันครับ...

Sunday, March 11, 2007

Almost Love (13 ปีจากคู่ซี้เป็นคู่ซึ้ง)



เห็นปกของหนังเรื่องนี้แล้วก็อดที่จะหามาดูไม่ได้ เนื่องจากผมเป็นแฟนประจำขอนักแสดงนำทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นสุดหล่อ ควอน ซัง วู ที่ขนาดผู้ชายอย่างผมยังเห็นว่าเค๊าเท่ห์ หรือ นางเอก คิม ฮา นุล ที่ดูแล้วไม่ค่อยจะสวยแต่ก็หลงเสน่ห์เธอทุกครั้งที่ดูหนังที่เธอเล่น สรุปว่าหนังเรื่องนี้หยิบมาดูเพราะดารานำทั้งสองคนครับ

เนื้อเรื่องเป็นเรื่องของเพื่อนสองคนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก คอยดูแลกันและกันมาตลอด 13 ปี และต่างไม่รู้ว่าตัวเองตกหลุมรักอีกฝ่ายนึง ฝ่ายชายมีความฝันอยากจะเป็นเฉินหลงคนต่อไปซึ่งเป็นสาเหตุให้เข้าเรียนเอกเทควันโด ชอบนั่งใช้เวลาในการเขียนบทภาพยนตร์ และเป็นสุดยอดของการออกกำลังกาย ส่วนฝ่ายหญิงก็มีความฝันอยากจะเป็นนักแสดง แต่เธอมีข้อเสียอย่างนึงคือจะสั่นทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าคนมากๆ
เรื่องราวกุ๊กกิ๊กเริ่มเกิดขึ้นเมื่อต่างฝ่ายต่างมีแฟน ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสำหรับทั้งสองคนมากขึ้น

แต่ประเด็นที่สำคัญของหนังอยู่ที่วันนึง พระเอกของเราทำหน้าที่สตั้นแมนซึ่งเป็นงานแรกในวงการแสดงของเค๊าได้สำเร็จ และก็เป็นเวลาเดียวกับที่นางเอกของเราสามารถจะชนะใจตัวเองและสามารถผ่านการ test หน้ากล้องได้ พระเอกของเรากำลังเดินข้ามถนนและโทรหานางเอกของเราด้วยความดีใจ แต่อยู่ๆก็มรถคันนึงวิ่งเข้ามาชนพระเอกของเรา ทำให้พระเอกของเราต้องเสียขาไป 1 ข้าง เรื่องราวดรามาต่างๆ จึงเกิดขึ้น

คิม ซัง วู ชนะใจผมอีกเชนเคยในบทดรามา ในตอนที่เค๊าทราบว่าตัวเองเสียขาไปหนึ่งข้าง นั่นหมายถึง ความฝันทั้งหมดของเค๊าที่ฝันมาตั้งแต่เด็กต้องสลายไป ในฉากนี้ทำได้ดีมากครับ และอีกฉากเป็นในฉากที่นางเอกได้ให้วิดีโอให้กำลังพระเอกของเรา เล่นเอาผมนิ่งตามไปเลยครับ

พระเอกของเราหลังจากเหตุการณ์อุบัติเหตุนี้ได้หายไป และขาดการติดต่อจากนางเอกไป 1 ปี เค๊ากลับมาพร้อมกับบทภาพยนตร์ที่เขียนให้นางเอกของเรา และเข้าไปเสนอตามสตูดิโอต่างๆ ทางพระเอกของเราไม่ยอมขายให้สตูดิโอที่ต้องการซื้อ เพราะเหตุผลว่า ไม่ต้องการให้มีการแก้บทในหนังเรื่องนี้ เพราะหนังเรื่องนี้เขียนมาเพื่อเธอ

จนมาถึงวันเกิดของนางเอก พระเอกของเราได้มาพบกับเธอ พร้อมแฟนของนางเอก เธอโกรธและตบหน้าพระเอกที่หายไปโดยไม่บอกกล่าว 1 ปี หลังจากนั้นพระเอกได้นั่งคุยกับแฟนของนางเอกที่เป็ฯเพื่อนเก่าและขอตัวไปห้องน้ำ ระหว่างที่ไปห้องน้ำแฟนนางเอกเห็นบทภาพยนตร์ที่เขียนถึงนางเอกจึงเก็บไปและนำไปให้นางเอกดู พร้อมกับคำว่า "เป็นคำสารภาพรักที่ยาวที่สุดที่เคยมีมา" และหลีกทางให้พระเอกและนางเอกโดยการจากไป

นางเอกของเราเมื่อ่านเรื่องราวจบก็ออกตามหาพระเอกของเรา ส่วนพระเอกของเราที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะจากไปก็ห้ามใจของตัวเองไม่ได้วิ่งกลับมาหานางเอกของเรา ความประทับใจอยู่ที่ตอนที่นางเอกพบกับพระเอก และบอกให้พระเอกหยุดเดินมาหา และบอกว่า "จากนี้ฉันจะเป็นคนที่เดินไปหาคุณเอง" ประโยคนี้กินใจผมจริงๆครับ

โดยรวมเรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังที่ดีเรื่องนึงสำหรับผมครับ